เนื้อสัตว์แปรรูป: ความอร่อยหลากหลายที่อยู่คู่เกือบทุกบ้าน

เมื่อพูดถึง เนื้อสัตว์แปรรูป หลายคนอาจจะนึกถึงอาหารที่เราคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม เบคอน หรือแม้แต่หมูยอและกุนเชียง ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบยอดนิยมในหลายครัวเรือน การแปรรูปเนื้อสัตว์ไม่ใช่เพียงเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่ยังมีความหมายลึกซึ้งไปถึงเรื่องราวทางวัฒนธรรม การถนอมอาหาร และการสร้างความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันอีกด้วย
เนื้อสัตว์แปรรูปคืออะไร?
เนื้อสัตว์แปรรูป (Meat Processing) คือ เนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูปให้มีลักษณะต่างไปจากเดิม โดยผ่านกระบวนการหมักเกลือ การบ่ม การหมัก การรมควัน หรือกระบวนการอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรสชาติ เนื้อสัมผัส และเพิ่มความสะดวกสบายและสามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น
ที่มาของเนื้อสัตว์แปรรูป
การแปรรูปเนื้อสัตว์มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี จุดเริ่มต้นมาจากความจำเป็นในการถนอมอาหาร ให้เก็บไว้รับประทานได้นานขึ้นในยุคที่ยังไม่มีตู้เย็นหรือระบบแช่แข็ง วิธีการดั้งเดิมที่นิยม เช่น การหมัก การรมควัน การตากแห้ง และการเค็ม ล้วนเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อกันมาในแต่ละท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น
- ยุโรป มีชื่อเสียงด้านแฮมและซาลามี่
- เอเชีย นิยมกุนเชียง หมูยอ และแหนม
- ตะวันออกกลาง มีเนื้อสัตว์อบแห้งและรมควัน
ทุกภูมิภาคล้วนมีเอกลักษณ์การแปรรูปที่แตกต่างกันตามวัตถุดิบและรสนิยม จนทำให้เนื้อสัตว์แปรรูปกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่
ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปมีกี่ประเภท?
1. เนื้อสัตว์ทั้งชิ้น (Whole Muscle Product)
เนื้อสัตว์แปรรูปประเภท Whole muscle product ถือเป็นรูปแบบการแปรรูปที่มีความพรีเมียมมากที่สุด เนื่องจากยังคงลักษณะของชิ้นเนื้อโดยไม่ผ่านการบดหรือหั่นให้เล็กลง ตัวอย่างเช่น แฮม หรืออกไก่รมควัน วิธีการผลิตจะเน้นไปที่ขั้นตอนการหมักที่เรียกว่า Brine solution ซึ่งโดยทั่วไปประกอบด้วยน้ำ เกลือ เครื่องเทศ และอาจมีสารเสริมบางชนิดที่ช่วยให้เนื้อคงคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น กระบวนการหมักนี้มักทำโดยการฉีดน้ำหมักเข้าสู่เนื้อด้วยเครื่องฉีด (Injector) หรือใช้เครื่องนวดเนื้อ (Tumbler) เพื่อให้น้ำหมักซึมเข้าสู่เนื้ออย่างทั่วถึง ผลลัพธ์ที่ได้คือเนื้อสัตว์มีรสชาติกลมกล่อม เนื้อนุ่มขึ้น และยังช่วยเพิ่มผลผลิต (yield) ให้สูงขึ้นอีกด้วย
2. เนื้อสัตว์ขึ้นรูปใหม่ (Restructured Product)
เนื้อสัตว์ประเภท Restructured product เป็นการนำเนื้อมาตัดแต่งให้มีขนาดเล็กลง (ประมาณ 5–25 เซนติเมตร) มาผ่านกระบวนการขึ้นรูปใหม่ โดยอาศัยคุณสมบัติของเกลือในน้ำหมัก ซึ่งช่วยสกัดโปรตีนที่ละลายน้ำได้ เช่น แอกติน (Actin) และ ไมโอซิน (Myosin) โปรตีนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำให้ชิ้นเนื้อสามารถยึดเกาะและรวมตัวเป็นเนื้อก้อนเดียวกันได้
นอกจากนี้ยังมีการใช้ ฟอสเฟต (Phosphate salts) เพื่อเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของเนื้อ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และมีคุณภาพการบริโภคที่ดีขึ้น เมื่อเนื้อผ่านการหมักและขึ้นรูปแล้ว จะถูกอัดใส่เคส (mold หรือ casing) เพื่อนำไปทำให้สุก เช่น การอบหรือการรมควัน ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ได้แก่ Restructured ham
3. เนื้อบดหยาบ (Ground Meat)
เนื้อสัตว์แปรรูปประเภท Ground meat เป็นการนำชิ้นเนื้อสัตว์มาบดให้มีขนาดเล็กลง ก่อนนำไปขึ้นรูปใหม่ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ไส้กรอกบดหยาบ (Coarse sausage), ซาลามี่ (Salami), เปปเปอโรนี (Pepperoni), แหนม และไส้กรอกอีสาน ชิ้นเนื้อจะถูกบดด้วยเครื่องบดเนื้อ (Meat Grinder) ให้ได้ขนาดประมาณ 0.5–2.5 เซนติเมตร จากนั้นอาจผสมกับไขมันบด ในสัดส่วนที่เหมาะสม รวมถึงเครื่องปรุงรส (Seasonings) ต่าง ๆ เพื่อปรับรสชาติและกลิ่นให้เป็นเอกลักษณ์ เมื่อเตรียมส่วนผสมเสร็จแล้ว เนื้อจะถูกอัดลงในเคส (casing) แล้วนำไปผ่านกระบวนการทำให้สุก เช่น การอบหรือการรมควัน ขึ้นอยู่กับชนิดผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ
4. เนื้อบดละเอียด (Finely Comminuted Products)
ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปประเภท Finely comminuted products หรือที่มักเรียกว่า Emulsified meat เป็นการนำเนื้อสัตว์ที่ผ่านการบดละเอียด (Ground meat) มาผสมกับเครื่องปรุงรส (seasonings) และส่วนผสมต่าง ๆ โดยใช้เครื่องบดสับผสม (Bowl Cutter) เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่มีลักษณะเป็นเนื้ออิมัลชัน (Meat emulsion) เนียนละเอียด
ในกระบวนการนี้ เกลือ มีบทบาทสำคัญในการสกัดโปรตีนจากเนื้อสัตว์และช่วยให้ไขมันกระจายตัวได้ดี ทำให้ส่วนผสมสามารถยึดเกาะและคงรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังอาจมีการใช้แป้งดัดแปร (Modified starches) เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต เสริมเนื้อสัมผัสให้เด้งมากขึ้น และเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ (Water-holding capacity) ของผลิตภัณฑ์
5. เนื้อสัตว์ชุบทอด (Coated Products)
ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปประเภท Coated products มักใช้เนื้อสัตว์ที่ไม่มีกระดูกหรือเนื้อสัตว์บดที่ผ่านการขึ้นรูปใหม่ จากนั้นนำมาชุบด้วยสารละลายแข็ง (Batter) และเคลือบด้วยแป้งแห้ง (Breader) ก่อนเข้าสู่กระบวนการทอดแบบน้ำมันท่วม (Deep-frying) เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มในที่เป็นเอกลักษณ์ ในบางสูตรอาจมีขั้นตอนการหมัก (Marination) เนื้อสัตว์ก่อนการชุบแป้ง เพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้ผลิตภัณฑ์มีความนุ่มชุ่มฉ่ำมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ นักเก็ตไก่ และเนื้อไก่ชุบแป้งทอด ซึ่งถือเป็นสินค้าที่พบได้บ่อยทั้งในตลาดอาหารพร้อมรับประทานและอุตสาหกรรมฟาสต์ฟู้ด
หลังจากที่เราได้รู้จักเนื้อสัตว์แปรรูปในรูปแบบต่าง ๆ ไปแล้ว จะขอพูดถึงเนื้อสัตว์แปรรูปที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในไทยและต่างประเทศก็คือ “ไส้กรอก” ซึ่งจัดว่าเป็นเนื้อสัตว์แปรรูปที่มีความหลากหลายสูง มีทั้งแบบหมัก รมควัน และแบบสด โดยเฉพาะ “ไส้กรอกสด” ที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยรสชาติที่คงความเป็นธรรมชาติของเนื้อสัตว์ และสามารถนำไปปรุงได้ในเมนูที่หลากหลาย ในบทความนี้เราขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกจากแบรนด์ Carne Meats
ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกจากแบรนด์ Carne Meats – ความอร่อยที่มาพร้อมคุณภาพ

ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกแบรนด์ Carne Meats ที่คัดเลือกเฉพาะเนื้อคุณภาพสดใหม่ พร้อมปรุงแต่งด้วยเครื่องเทศ คิดค้นสูตรการผลิตอย่างพิถีพิถันเพื่อให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์โดนเด่นไม่เหมือนใคร โดยมีทั้งไส้กรอกหมู ไส้กรอกเนื้อ และไส้กรอกแกะ ได้แก่
-
ไส้กรอกหมู 4 รสชาติ ได้แก่
- RAW TOULOUSE PORK SAUSAGE ไส้กรอกหมูคลาสสิก ผลิตจากเนื้อหมูพรีเมียม มีส่วนผสมของเกลือ พริกไทยและเครื่องเทศสไตล์ฝรั่งเศส
- RAW OLD ENGLISH PORK SAUSAGE ไส้กรอกหมูสไตล์อังกฤษดั้งเดิม รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม โดยจะมีรส-เค็มจากเกลือและเผ็ดร้อนน้อย จากพริกไทยดำและเครื่องเทศต่าง ๆ
- RAW GARLIC&THYME PORK SAUSAGE ไส้กรอกหมูที่มีรสชาติเข้มข้นจากส่วนผสมของกระเทียมและไรม์
- RAW SPICY FENNEL PORK SAUSAGE ไส้กรอกสไตล์อิตาเลียน มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดยี่หร่าผสมเข้ากับเครื่องเทศต่าง ๆ ทำให้ได้กลิ่นหอมดึงดูดใจและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
-
ไส้กรอกวัว
- RAW BEEF SAUSAGE ผลิตจากเนื้อวัวนำเข้า
-
ไส้กรอกแกะ
- RAW MERGUEZ LAMB SAUSAGE ผลิตจากเนื้อแกะนำเข้าปรุงรสด้วยเครื่องเทศหลากหลาย
เนื้อสัตว์แปรรูป ไม่ได้เป็นเพียงอาหารที่เพิ่มรสชาติให้มื้ออาหารเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและภูมิ-ปัญญาของผู้คนในแต่ละยุคสมัย โดยเฉพาะ “ไส้กรอกสด” ที่สามารถนำมาสร้างสรรค์เมนูได้ไม่รู้จบ ตั้งแต่อาหารเช้า อาหาร-ไทย ไปจนถึงอาหารยุโรป
หากกำลังมองหาไส้กรอกที่มีคุณภาพสูง รสชาติพรีเมียม และผลิตด้วยมาตรฐานสากล แบรนด์ Carne Meats คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการคัดสรรเนื้อสัตว์คุณภาพ และผสมผสานเครื่องเทศสูตรเฉพาะ ทำให้ได้ไส้กรอกสดที่ทั้งอร่อย ปลอดภัย และเหมาะกับทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นการย่าง อบ หรือนำมาปรุงอาหารในสไตล์ที่คุณชื่นชอบ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อสินค้าสามารถ คลิกที่นี่
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
อ้างอิง